แรงงานเฮ! ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นสูงสุด 354 บาท มีผลทันที 1 ต.ค. 2565
หลังจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นมาก ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลถึงค่าครองชีพต้องปรับตัวตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่ต้องแบกรับความหนักหนาเอาไว้คงหนีไม่พ้นชาวแรงงานผู้หาเช้ากินค่ำทั้งหลาย แต่ล่าสุดได้มีมติจากกระทรวงแรงงานจากการประชุมคณะกรรมการการค่าจ้าง ชุดที่ 21 (คณะกรรมการไตรภาคี) ครั้งที่ 8/2565 เพื่อพิจารณากลั่นกรองข้อเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2565 ร่วมด้วยเหล่าบรรดาตัวแทนฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และหน่วยงานภาครัฐ
ค่าแรงขั้นต่ำปรับสูงสุด 354 บาท มีผล 1 ต.ค. 2565
หลังจากมีการประชุมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีมติเห็นชอบออกมาจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำจากเดิม 337 บาท เป็นอัตราสูงสุดอยู่ที่ 354 บาท หรือคิดเป็น 5.02% ตามแนวคิดด้านความเสมอภาค นายจ้างอยู่ได้ ลูกจ้างไม่เดือดร้อน และยังช่วยเพิ่มเติมกำลังซื้อภายในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งอัตราที่ปรับใหม่แต่ละพื้นที่แบ่งออกดังนี้
1. ชลบุรี, ระยอง และภูเก็ต ปรับค่าจ้างเป็น 354 บาท
2. กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, นครปฐม, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ปรับค่าจ้างเป็น 353 บาท
3. ฉะเชิงเทรา ปรับค่าจ้างเป็น 345 บาท
4. พระนครศรีอยุธยา ปรับค่าจ้างเป็น 343 บาท
5. ปราจีนบุรี, หนองคาย, อุบลราชธานี, พังงา, กระบี่, ตราด, ขอนแก่น, เชียงใหม่, สุพรรณบุรี, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครราชสีมา, ลพบุรี และสระบุรี ปรับค่างจ้างเป็น 340 บาท
6. มุกดาหาร, กาฬสินธุ์, สกลนคร, สมุทรสงคราม, จันทบุรี และนครนายก ปรับค่าจ้างเป็น 338 บาท
7. เพชรบูรณ์, กาญจนบุรี, บึงกาฬ, ชัยนาท, นครพนม, พะเยา, สุรินทร์, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, เลย, พัทลุง, อุตรดิตถ์, นครสวรรค์, ประจวบคีรีขันธ์, พิษณุโลก, อ่างทอง, สระแก้ว, บุรีรัมย์ และเพชรบุรี ปรับค่าจ้างเป็น 335 บาท
8. อำนาจเจริญ, แม่ฮ่องสอน, เชียงราย, ตรัง, ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, อุทัยธานี, ลำปาง, ลำพูน, ชุมพร, มหาสารคาม, สิงห์บุรี, สตูล, แพร่, สุโขทัย, กำแพงเพชร, ราชบุรี, ตาก, นครศรีธรรมราช, ชัยภูมิ, ระนอง และพิจิตร ปรับค่าจ้างเป็น 332 บาท
9. ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, น่าน, และอุดรธานี ปรับค่าจ้างเป็น 328 บาท
สำหรับอัตราดังกล่าวจะมีการปรับและมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ดังนั้นพี่น้องที่ต้องรับเงินตามค่าแรงขั้นต่ำจะมีเงินเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม และเชื่อว่าจะช่วยให้การใช้จ่ายมีความคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม แม้ค่าครองชีพและอัตราสินค้าเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม